7 เรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับ การตรวจเอชไอวี

การตรวจเอชไอวี เป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้คุณทราบสถานะสุขภาพของตัวเอง พร้อมทั้งเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อสุขภาพของคนรอบข้าง แม้ในปัจจุบันจะมีความก้าวหน้าทางการแพทย์และความตระหนักรู้เกี่ยวกับเอชไอวีมากขึ้น แต่หลายคนยังมีคำถามและข้อกังวลเกี่ยวกับการตรวจเอชไอวี เช่น ควรเริ่มตรวจเมื่อไร ตรวจอย่างไร หรือหากพบว่าติดเชื้อจะทำอย่างไรต่อไป บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ 7 เรื่องสำคัญเกี่ยวกับการตรวจเอชไอวี พร้อมคำแนะนำที่ครบถ้วน เพื่อให้คุณสามารถเตรียมตัวและดูแลสุขภาพของตัวเองได้อย่างมั่นใจ

การตรวจเอชไอวี คืออะไร

การตรวจเอชไอวี คือ กระบวนการทางการแพทย์ที่ใช้ตรวจหาการติดเชื้อไวรัสเอชไอวีในร่างกาย ซึ่งเป็นเชื้อที่สามารถทำลายระบบภูมิคุ้มกันของมนุษย์ หากปล่อยไว้โดยไม่รักษา เชื้อเอชไอวีสามารถพัฒนาไปสู่โรคเอดส์ได้ในระยะเวลาหนึ่ง วิธีการตรวจเอชไอวีมีหลากหลายรูปแบบ กระบวนการตรวจเอชไอวีในปัจจุบันมีความแม่นยำสูง และสามารถให้ผลตรวจได้รวดเร็ว การตรวจนี้ไม่เพียงช่วยให้ทราบสถานะการติดเชื้อ แต่ยังเป็นการเริ่มต้นกระบวนการรักษาและป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส

ทำไมการตรวจเอชไอวีจึงสำคัญ

การตรวจเอชไอวี มีความสำคัญทั้งในระดับบุคคลและสังคม สำหรับบุคคล การตรวจช่วยให้ทราบสถานะสุขภาพของตัวเอง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการดูแลสุขภาพ หากพบว่าติดเชื้อ สามารถเข้าสู่กระบวนการรักษาได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคแทรกซ้อนและช่วยให้มีสุขภาพที่ดีในระยะยาว สำหรับระดับสังคม การตรวจเอชไอวีเป็นวิธีสำคัญในการลดการแพร่กระจายของเชื้อ หากผู้ติดเชื้อได้รับการรักษาและมีปริมาณไวรัสในร่างกายต่ำจนไม่สามารถตรวจพบ (Undetectable) จะไม่สามารถแพร่เชื้อให้ผู้อื่นได้ ดังนั้น การตรวจเอชไอวีไม่เพียงเป็นเรื่องส่วนบุคคล แต่ยังเป็นการสนับสนุนสุขภาพส่วนรวมอีกด้วย

ใครบ้างที่ควรตรวจเอชไอวี

ทุกคนสามารถเข้ารับการตรวจเอชไอวีได้ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีความเสี่ยง เช่น

• ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัย: การมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกันเพิ่มความเสี่ยงในการรับและแพร่เชื้อเอชไอวี

• ผู้ที่มีคู่นอนหลายคน: ยิ่งจำนวนคู่นอนมากขึ้น ความเสี่ยงในการสัมผัสเชื้อก็เพิ่มขึ้น

• ผู้ที่ใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่น: การใช้เข็มฉีดยาร่วมกันเพิ่มโอกาสในการติดเชื้อผ่านทางเลือด

• ผู้ที่มีคู่นอนเป็นผู้ติดเชื้อเอชไอวี: แม้ว่าคู่ของคุณจะอยู่ระหว่างการรักษาและควบคุมเชื้อ แต่การตรวจเป็นประจำยังคงเป็นสิ่งสำคัญ

แม้คุณจะไม่มีพฤติกรรมเสี่ยง การตรวจเอชไอวีอย่างน้อยปีละครั้งเป็นสิ่งที่ควรพิจารณา โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์

วิธีตรวจเอชไอวีมีอะไรบ้าง ?

ปัจจุบัน การตรวจวินิจฉัยการติดเชื้อไวรัสเอชไอวีในห้องปฏิบัติการทางการแพทย์แบ่งออกเป็น 4 วิธีหลัก ดังนี้

Anti-HIV Testing

การตรวจหาแอนติบอดีที่ร่างกายสร้างขึ้นเพื่อต่อสู้กับเชื้อเอชไอวี (Anti-HIV)

• ใช้เป็นการตรวจคัดกรองเบื้องต้น

• สามารถตรวจพบการติดเชื้อได้ภายใน 3-4 สัปดาห์ หลังได้รับเชื้อ

• ให้บริการตรวจฟรีปีละ 2 ครั้งสำหรับคนไทย ตามสิทธิประโยชน์ด้านสุขภาพ

• สามารถเข้ารับบริการได้ที่โรงพยาบาลของรัฐทั่วประเทศ

HIV p24 Antigen Testing

การตรวจหาโปรตีนเฉพาะของเชื้อเอชไอวีที่เรียกว่า p24 antigen

• เหมาะสำหรับการตรวจในระยะแรกของการติดเชื้อ

• สามารถตรวจพบเชื้อได้ในช่วง ประมาณ 2 สัปดาห์ หลังได้รับเชื้อ

• ใช้ในกรณีที่ร่างกายยังไม่ได้สร้างแอนติบอดีในระดับที่เพียงพอ

HIV Ag/Ab Combination Assay

การตรวจที่รวมการหาแอนติเจน p24 และแอนติบอดี Anti-HIV ในขั้นตอนเดียว

• เรียกอีกชื่อว่า Fourth Generation Test

• ช่วยเพิ่มความแม่นยำและตรวจพบเชื้อได้ตั้งแต่ระยะแรก

• สามารถตรวจพบการติดเชื้อได้ในช่วง ประมาณ 2 สัปดาห์ หลังได้รับเชื้อ

• เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมและใช้อย่างแพร่หลายในปัจจุบัน

Nucleic Acid Test (NAT)

การตรวจหาสารพันธุกรรมของเชื้อเอชไอวี (RNA หรือ DNA)

• มีความไวและรวดเร็วที่สุด

• สามารถตรวจพบการติดเชื้อได้ภายใน ประมาณ 7 วัน หลังได้รับเชื้อ

• มักใช้ในกระบวนการคัดกรองโลหิตจากผู้บริจาคเลือด

• ยังไม่ใช่วิธีที่ใช้ในการตรวจคัดกรองทั่วไปในสถานพยาบาล

หมายเหตุ: การเลือกวิธีตรวจขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และช่วงเวลาที่คาดว่าได้รับเชื้อ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อการวินิจฉัยที่เหมาะสมและถูกต้อง.

การเตรียมตัวอย่างไรก่อนตรวจเอชไอวี

1. การเตรียมตัวก่อนตรวจเอชไอวีเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้คุณมั่นใจและได้รับผลตรวจที่ถูกต้อง เริ่มต้นด้วยการเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการตรวจ หากคุณมีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกันหรือใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่น ควรรอประมาณ 2 - 4 สัปดาห์ หลังจากเหตุการณ์เสี่ยง เนื่องจากร่างกายต้องใช้เวลาสร้างแอนติบอดีเพื่อตรวจหาเชื้อ หากตรวจเร็วเกินไป อาจได้ผลที่ยังไม่แน่ชัดและจำเป็นต้องตรวจซ้ำในอีก 3 เดือนเพื่อความแม่นยำ

2. การให้ข้อมูลส่วนตัวกับทางแพทย์ เช่น ประวัติสุขภาพหรือเหตุการณ์เสี่ยงที่ผ่านมา ก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้แพทย์หรือเจ้าหน้าที่สามารถให้คำแนะนำที่เหมาะสมได้ หากมีคำถามเกี่ยวกับการตรวจหรือการรักษา เช่น ความหมายของผลตรวจ ขั้นตอนการรักษา หรือวิธีป้องกันเพิ่มเติม ควรจดคำถามไว้ล่วงหน้าเพื่อสอบถามในการปรึกษา

3. การตรวจเอชไอวีไม่ใช่เรื่องน่ากลัว หากคุณรู้สึกกังวล ลองพูดคุยกับคนใกล้ชิดที่คุณไว้วางใจ หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ การตรวจเอชไอวีเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยให้คุณทราบสถานะสุขภาพของตัวเองและเริ่มต้นดูแลสุขภาพอย่างถูกต้อง หากคุณเลือกตรวจที่สถานพยาบาล เช่น ฮักษาคลินิก สาขากลางเวียง เชียงใหม่ ควรติดต่อและนัดหมายล่วงหน้าเพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการใช้บริการ

การแปลผลการตรวจเอชไอวี

ผลตรวจเอชไอวีสามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภทหลัก

1. ผลลบ (Negative): หมายถึงไม่พบการติดเชื้อเอชไอวีในร่างกาย อย่างไรก็ตาม หากคุณตรวจในช่วงเวลาที่เร็วเกินไป อาจต้องตรวจซ้ำในอีก 3 เดือน

2. ผลบวก (Positive): หมายถึงพบการติดเชื้อเอชไอวีในร่างกาย อย่าตกใจ หากคุณทราบผลเร็ว สามารถเริ่มต้นการรักษาได้ทันที การรักษาที่ต่อเนื่องช่วยลดปริมาณไวรัสในร่างกายและป้องกันการแพร่กระจาย

การดูแลตัวเองหลังทราบผลตรวจ

• สำหรับผลลบ: คุณยังคงต้องปฏิบัติตนอย่างปลอดภัย เช่น การใช้ถุงยางอนามัย การพิจารณาใช้ยา PrEP สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูง และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง แม้ว่าผลตรวจจะลบ แต่การป้องกันยังเป็นสิ่งสำคัญ

• สำหรับผลบวก: หากผลตรวจเป็นบวก การเริ่มต้นการรักษาโดยเร็วที่สุดเป็นสิ่งจำเป็น คุณควรปรึกษาแพทย์เพื่อเริ่มต้นกระบวนการรักษา การรักษาด้วยยาต้านไวรัส (ART) สามารถช่วยให้คุณมีสุขภาพที่ดีและลดความเสี่ยงของการแพร่เชื้อ

ตรวจเอชไอวี เชียงใหม่ ได้ที่ไหน ?

การตรวจและรักษาเอชไอวี สามารถเข้ารับบริการได้ที่ ฮักษาคลินิก สาขากลางเวียง เชียงใหม่ ซึ่งเป็นสถานพยาบาลที่ให้บริการอย่างมืออาชีพ พร้อมทีมบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านนี้

ที่ฮักษาคลินิก คุณจะได้รับ

1. บริการตรวจเอชไอวี: ครอบคลุมทั้งการตรวจคัดกรองและการยืนยันผล ด้วยวิธีที่มีความแม่นยำสูง

2. บริการให้คำปรึกษา: โดยเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญที่จะให้ข้อมูลที่ถูกต้องและช่วยลดความกังวล

3. การรักษาด้วยยาต้านไวรัส (ART): เพื่อช่วยควบคุมปริมาณไวรัสและรักษาสุขภาพให้แข็งแรง

4. บริการที่เป็นส่วนตัว: พร้อมรักษาความลับของผู้รับบริการ

อ่านบทความอื่นๆ

• 10 เรื่องที่ควรรู้ก่อนทานยา PEP ยาต้านฉุกเฉิน

• ไวรัส HPV รู้เท่าทัน ป้องกันได้

ช่องทางการติดต่อ

• ฮักษาคลินิก กลางเวียง เชียงใหม่

• ตั้งอยู่ที่ 77/7 ถนน คชสาร ตำบลช้างคลาน อำเภอเมืองเชียงใหม่ เชียงใหม่

• เปิดบริการทุกวัน

  • จันทร์ – ศุกร์ 10.00 – 20.00 น.

  • เสาร์ – อาทิตย์ 10.00 – 18.00 น.

• สอบถามผ่าน Line id. @hugsaclinic (มี @ ด้วยนะครับ)

• เบอร์โทรติดต่อ ☎ 093 309 9988

• แผนที่คลินิก 🚗 https://g.page/hugsa-medical?share

• จองคิวตรวจออนไลน์ https://hugsa.youcanbook.me